6.1
บทที่ 5 การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning)
D: การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล
(Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย
เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ (เครือข่ายสังคม)
การใช้อินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิมการเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีความหมายมากกว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
แต่ยังคงมีเนื้อหาหลากหลายเกี่ยวกับเนื้อหา (เนื้อหา) สังคมและการสะท้อน (Reflection) ตั้งอยู่ในการเรียนรู้การทำงานและชีวิตประจำวัน
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต 2546 9-10)
ประกาศว่าสังคมข่าวสารข้อมูลหรือสังคมสารสนเทศโลกมีข่าวข้อมูลแพร่กระจาย
กว้างขวางทั่วถึงรวดเร็วมากก็คิดว่าคนจะฉลาด คนจะมีปัญญา จะเข้าสู่ยุคแห่งปัญญา
แต่ที่จริงการมีข้อมูลข่าวสารมากไม่จำเป็นต้องทำให้คนมีสติปัญญาพวกว่าไม่พัฒนาคนให้รู้จักรับและใน
ข้อมูลที่ได้รับและสรุปสรุปไว้ว่าจำแนกเป็นสามประเภทได้ดังนี้
1.
กลุ่มที่ได้รับเงินช่วยเหลือในกรณีที่มีการเก็บรักษาข้อมูลอย่างระมัดระวัง
โทษอย่างมากข่าวสารข้อมูลจะกลายเป็นเครื่องมือล่อเร้าและหลอกลวง ทำให้คนเป็นเหยื่อ
2.
กลุ่มที่รู้เท่าทันคนจำนวนมากมีความภาคภูมิใจว่าตัวตนตามทันเวลาข้อเสนอมีข้อมูลข่าวสารอะไรออกมาได้ทันเวลา
แต่พวกเขาก็ไม่รู้ข่าวเท่าไหร่ แต่ไม่รู้รู้เท่าทันและก็ถูกกระแสข้อมูล
หากมีสติปัญญารู้เท่าทันก็จะทำให้มีคนรู้ใจได้มากขึ้น
3. กลุ่มที่อยู่เหนือกระแสการรู้เท่าทัน
แต่ก็ยังไม่พอ
รถทำได้ดีกว่านั้นอีกคือขึ้นไปอยู่เหนือกระแสเป็นผู้ที่สามารถนำเอาข้อมูลข่าวสารมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
คนกลุ่มนี้สามารถจัดการกับกระเเส โดยทำการเปลี่ยนแปลงในกระแสหรือนำกระแซให้เดินไปในทิศทางใหม่ที่ถูกต้อง
ศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ
(http: / / www.
dlthailand. convthis-khxng-khotmyku nt) อ้างถึงงานวิจัยของสถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทยว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาคุณภาพการศึกษาระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันเป็นระบบที่ไม่เอื้อต่อการสร้างความรับผิดชอบ
(Accountability) หลักสูตรเรียนและเรียนรู้ภาษาไทยไม่สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่
21 (21 st century skill) ซึ่งมีผลทำให้การเรียนเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงอีกทั้งสภาพการจัดการศึกษาของประเทศไทยในปัจจุบันกำลังประสบ
ปัญหาในด้านคุณภาพของนักเรียนปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ซึ่งมีสาเหตุจากการขาดคราหรือครูไม่ครบขั้นไม่ครบสาระการเรียนรู้ครูมีประสบการณ์หรือทักษะการจัดการเรียนรู้น้อยขาดสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัยพละกาวเข้าถึง
ได้ลำบากครูมีเวลาในการจัดการเรียนการสอนน้อยกิจกรรมของโรงเรียนมีมากทรัพยากรที่มีกระจัดกระจายไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าและการแก
ปัญหาต่างๆก็ทำได้ในวง จำกัด
กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณเพการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีกิจกรรมหลักคือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลโดยแบ่งเป็นซึ่งกรรมต่อยคือการ
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกล (DLTV) และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีทางไกล ng) การจัดการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนในการแก้ปัญหาการเรียนการสอนในห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ
ครูมีเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทุกส่วนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล
สื่อการเรียนรู้ทางไกล (รูปแบบการเรียนทางไกลโทรทัศน์: DI. TV) และการจัดการการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ
(การเรียนทางไกลผ่านเทคโนโลยี Infinition: DLIT) การจัดการเรียนการสอนโดยครูส่วนใหญ่
ทั้งกระบวนการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการสร้างความรู้จากการลงมือปฏิบัติเนื้อหาตลอดจนสื่อและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการจัดเรียนการสอนอันจะเป็นราชทาน
ช่องว่างและเพิ่มโอกาสในการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับคนไทยทุกคนการดำเนินการตามรอยแผลพระยุคลบาทและตอบสนองพระราชดำริ
ศึกษาไทยให้เจริญก้าวหน้า
เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ (การศึกษาจะถูกเปลี่ยนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลบทความไอที 24
ชั่วโมงวันที่: 25 พฤศจิกายน 2016)
ได้รับบทความเกี่ยวกับการศึกษาจะถูกเปลี่ยนเป็นยุคเศรษฐกิจดิจิทัลสรุปความโดดเด่นของเทคโนโลยีที่โดดเด่นในการสร้างรายได้ทุกสิ่งบนโลกที่สามารถเชื่อมต่อกันได้นั่นคืออินเทอร์เน็ตของทุกสิ่ง
(IoE) IoE จะสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ที่มีประโยชน์
ผู้สอนมากกว่าในอดีตที่ผ่านมาเช่นนักศึกษาที่อาศัยอยู่ในลอนดอนสามารถร่วมรับฟังการบรรยายจากสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกาได้โดยอาศัยอุปกรณ์สื่อสาร
ที่ทำให้ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนโดยข้อมูลการเรียนรู้และข้อมูลทั้งหมดจะพร้อมให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ตลอดเวลาข้อมูลและสื่อการสอนต่างๆที่มีอยู่จะถูกนำมาใช้ร่วมกันในรูปแบบ
ใหม่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งผลต่อวิธีการ” และ“ สถานที่” ที่ใช้ในการเรียนรู้ผู้เรียนจะต้องเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูทำให้ IoE มีความจำเป็นมากกว่าทักษะและจำนวนของผู้เชี่ยวชาญอีกทั้งการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นโดย
IoE จะทำให้อุปกรณ์สามารถนำมาใช้ในการประเมินผลของการเรียนรู้เราได้ออกแบบและทดสอบความสามารถของผู้เรียนและผู้ที่สามารถประเมินได้ด้วยตัวเอง IoE ยังสามารถเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของผู้มีความบกพร่องทางร่างกายและทางสติปัญญาเช่นในประเทศออสเตรเลียนำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ไปใช้ในโรงเรียนสอนผู้มีความบกพร่องทั่งร่างกายโดยเซ็นเซอร์จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ภาษามือของผู้เรียนและใช้ในการปรับปรุงการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนสมาธิสั้นโดยการตรวจเช็คการทำงานของสมองและการให้รางวัลสำหรับผู้เรียนที่
มีพัฒนาการเรียนรู้ที่ดีขึ้น
คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปส สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ข่าวประชาสัมพันธ์วันที่ 4 พฤษภาคม 2561) ได้นำเสนอแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิตอลแ
การเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์และการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการปฏิรูปการศึกษาสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสรุปได้ว่าในเรื่องของการศึกษาสิ่งแรกที่ต้องทำคือการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์
(Paradium) ให้ชัดเจนชัยชนะจะเกิดขึ้น
ขึ้นได้อยู่ที่ข้อมูลขนาดใหญ่ข้อมูลขนาดใหญ่ในที่นี้หมายถึงข้อมูลที่จะต้องถูกนำมาวิเคราะห์และนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการได้โดยสะดวกไม่ได้หมายถึง
ข้อมูลจำนวนมากที่จัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แม่ขายต่อ Hig data แล้วจิตวิทยาในการจัดการศึกษาเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีการออกแบบในสิ่งที่คนเรียนอยากเรียนรู้ที่จะใช้การออกแบบอย่างที่เราต้องการสร้างความแข็งแกร่งจากภายในเพราะ
ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครสนใจ (ผู้ใช้) และผู้เรียน (ผู้เรียน)
กระทรวงศึกษาธิการประเทศบราซิลต้องรู้ว่าใครจะเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้และไม่เคยรู้มาก่อน
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ 5 ด้านได้แก่
1) การวางระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับการจัดทำขึ้นในระดับชุมชน
2 ) คนกับดิจิทัล ต้องมีการสร้างคนในระดับต่างๆ
การศึกษาต้องจับคู่กับความต้องการของด้านแรงงานให้เหมาะสม
ว่ามีความต้องการคนทำงานที่มีคุณสมบัติอย่างไร และด้านใดบ้าง
เพราะจะเห็นได้ว่าในบางธรุกิจธนาคาร หรืบางอุตสาหกรรม คนเริ่มถูก AI เข้ามาแทนที่แล้ว
3) Big Data ในภาครัฐ
จะต้องมีการจัดทำข้อมูลระหว่างกระทรวงเพื่อนำเสนอ
มาวิเคราะห์ออกแบบและวางแผนทางด้านนโยบายต่าง ๆ
เช่นการเชื่อมโยงข้อมูลการผลิตกำลังคนในระบบการศึกษาตอบโจทย์ความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมต้นแบบ
4) Cyber Security ต้องให้ความสำนึก
ความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ
5) Internet of Thing (IoT) มหาวิทยาลัยต้องไปพันนาเทคโนโลยี IoT อย่างมากส่วนอติพรเกิดเรื่อง (2560)
ได้รับผลการศึกษาเรื่องการส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สังคมไทยในยุคดิจิตอล
(วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง 173-14) สรุป 1. การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
เพื่อสังคมยุคกลางมี 4 เรื่องหลัก 1) การเรียนรู้เกี่ยวกับดิจิทัล 2)
การคิดสร้างสรรค์ 3) การสื่อสารที่มีคุณสมบัติและ 4) การผลิตภาพที่มีคุณภาพสูง 2.
การเรียนรู้จากยุคสมัยก่อนสู่ยุคดิจิทัล ต้องจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ส่งเสริมการค้นคว้าด้วยตนเองโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนรู้ให้มากที่สุดผู้สอนเป็นผู้ชี้แนะแนวทางในการเรียนรู้ตามหลักสูตร
และการประเมินผลการเรียนรู้และการพัฒนาการประเมินผลการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. การจัดการศึกษาในยุคดิจิทัลต้องคำนึงถึงการปรับตัวให้เข้ากับสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็ว
เน้นการใช้เครือข่ายออนไลน์การจัดการเรียนรู้สร้างสถานการณ์จำลองให้ผู้เรียนพบประสบการณ์จริงเนื้อหาการเรียนรู้ควรมีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้บนเครือข่ายออนไลน์สามารถสร้างองค์ความรู้แบ่งปันความรู้และเนื้อหาผ่านเครือข่ายออนไลน์และส่งเสริมความรู้ในโลกแห่งการทำงานมากขึ้น
การเลือกและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน
คำว่าสื่อมีความหมายกว้างมาก
การเรียนการสอนในบางครั้งอาจเกิดขึ้นจากเสียงของผู้สอนสื่อบันทึกภาพวีดิทัศน์
ภาพยนตร์ และคอมพิวเตอร์หรือสื่อต่างๆ (medium) หรือ (modia)มาจาก
ภาษาละติน หมายถึงบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ตรงกลาง (intermediate หรือ middle) หรือเครื่องมือ (instrument) โดยเฉพาะอย่างยิ่งยิ่งขึ้นเป็นวิธีการของการสื่อสารที่ส่งไปถึงประชาชน
เป็นพาหะของการโฆษณา (Guralnikjv07, 1970) ดังนั้น เมื่อพิจารณาในด้านของการสื่อสารแล้ว สื่อจึงหมายถึง
สิ่งที่เป็นพาหนะนำความรู้หรือสารสนเทศจากแหล่งกำเนิดไปสู่ผู้รับ เช่น วิทยุ โทรทัศน์
ภาพยนตร์รูปภาพ วัสดุฉาย สิ่งพิมพ์
และสิ่งดังกล่าวนี้เมื่อนำมาใช้กับการเรียนการสอน เราเรียกว่าสื่อการเรียนการสอน
กลวิธีการสอนและการตัดสินใจเลือกสื่อ
เป็นความสัมพันธ์ระหว่างกัน
และควรจะทำไปพร้อมกันหลังจากที่ได้มีการกำหนดจุดหมายและวิเคราะห์ภาระงานแล้ว
แบบจำลองในการเลือกสื่อมีทั้งแบบที่เรียบง่ายและแบบที่มีความซับซ้อนรู้สึกโรเบิร์ต
เมเจอร์ (Robert Mager) (Knirk and Gustafson, 1986 :
169) ผู้ซึ่งเป็นนักออกแบบการสอน เพื่อการค้าที่ประสบความสำเร็จ ได้กล่าวว่า
กระดาษเป็นตัวกลางอย่างหนึ่งของการเลือก นอกจากว่าในกรณีที่จะสามารถเลือกใช้สิ่งที่ทำจากอย่างอื่น
วัสดุที่เป็นกระดาษมีราคาแพงในการออกแบบและผลิต
ง่ายที่จะผลิตเพิ่มใช้ง่ายและนักเขียนส่วนใหญ่ มีความเข้าใจ
สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของแบบจำลองง่ายๆ สำหรับการเลือกสื่อ
ส่วนแบบจำลองที่ซับซ้อนเป็นวิธีการที่ส่วนใหญ่ควรจะหลีกเลี่ยงเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อเปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์ของทหาร ก็คือ อย่าโง่เลย ทำให้ดูง่ายๆเถอะ (KISS:
Keep It Simple, stupid)
การนำเสนอสื่อการเรียนการสอน
ควรเป็นการกระตุ้นทางการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ง่ายแก่การเข้าใจ
สื่อที่ซับซ้อนมีแนวโน้มของการสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายสูงและบ่อยครั้งพิสูจน์ได้ว่ามีประสิทธิภาพและเชื่อถือไม่ได้
ควรใช้สื่อการเรียนการสอนที่ถูกที่สุดที่ทำให้ผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ตามเจตนารมณ์ภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตามข้อควรจำ คือ การสื่อราคาย่อมเยาที่ผลิตไม่ดีทำให้การเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการใช้สื่อที่ซับซ้อนดังกล่าวแล้วเช่นกัน
การเลือกและการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน
เป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่งในกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ
นักออกแบบการเรียนการสอนต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือก วิธีการ/สื่อ
หรือเลือกวิธีการ เลือกวัสดุอุปกรณ์
ระบุประโยชน์ของวัสดุอุปกรณ์ทางการค้าริเริ่มและเฝ้าระวัง
กระบวนการสื่อ นักออกแบบอาจจะทำเพียงวางแผนมโนทัศน์ สคลิปและนานๆครั้ง
อาจจะผลิตวัสดุ (software) สำหรับจำหน่ายความจำกัดสำหรับบาบาทของผู้ออกแบบในการตัดสินใจเกี่ยวกับวิธี/สื่อ
จะหลากหลายไปตามสถานการณ์
และแม้ว่าจะมีวิธีการหลายวิธีในการจำแนกสื่อเป็นประเภทๆก็ตาม
ก็ยังไม่มีอนุกรมภิธานสื่อ ( taxonomy of media) ที่พัฒนาขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ
(Seels and Glassgow ,1990:179 )
ในบทนี้จึงเป็นการเสนอสื่อ 3 ประเภท คือ วิธีการ สื่อดั้งเดิม
เทคโนโลยีใหม่หรือสื่อดิจิทัล ภายในแต่ละประเภทจะมีทางเลือกและรูปแบบมาก เช่น
กราฟฟิก และฟิล์ม หรือโทรทัศน์เฉพาะกราฟิกก็มีหลายรูปแบบได้แก่ แผนภูมิ การ์ตูน
และภาพประกอบการเลือกวิธีการ/สื่อ อยู่บนพื้นฐานของเกณฑ์จะมีความเหมาะสมสำหรับผู้เรียนสิ่งที่เรียนและข้อจำกัดคุณลักษณะของผู้เรียน
จุดประสงค์ สถานการณ์การเรียนรู้
และข้อจำกัดนั้นต้องระบุขึ้นก่อนที่จะเลือกวิธีการและสื่อหลังจากที่ได้มีการระบุวิธีการ/สื่อแล้วออกแบบต้องแสวงหาสื่อจากดัชนีสื่อจากสื่อที่สร้างขึ้นเพื่อการค้าซึ่งสามารถที่จะนำมาใช้หรือนำมาปรับใช้ได้
ถ้าสื่อเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ก็ต้องผลิตสื่อขึ้นเอง
ผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้ผลิตสื่อ
ทีมในการผลิตควรจะประกอบไปด้วยใครบ้าง ผู้ออกแบบต้องริเริ่ม
เฝ้าระวังติดตามกระบวนการผลิต เป็นความรับผิดชอบของผู้ออกแบบที่จะต้องมีความแน่ใจ ในการบูรณาการภาพของการออกแบบและคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ด้วยการเฝ้าระวังติดตามการผลิต
ประเภทสื่อ
สื่อสามารถจำแนกได้ สี่ ประเภท คือ สื่อทางหู (audio)ทางตา (visual) ทางหูและทางตารวมกัน (audio- visual) และสัมผัส
(tactile) ผู้ออกแบบสามารถเลือกสื่อที่เหมาะสมที่สุดตากประเภทของสื่อต่างๆ
สำหรับภาระงานการเรียนการสอนที่มีความเฉพาะเจาะจงสื่อต่างๆทั้ง 4
ประเภทและตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
1. สื่อทางหู ได้แก่ เสียงของผู้ฝึก
ห้องปฏิบัติการทางเสียง การเตรียมเทปสำหรับผู้ฝึกเทปเเผ่นเสียง วิทยุกระจายเสียง
2. สื่อทางตา ได้แก่ กระดานชอล์ก
กระดานเเม่เหล็ก กราฟ คอมพิวเตอร์ วัตถุต่างๆที่เป็นของจริง รูปภาพ แผนภูมิ
กราฟภาพถ่าย หุ่นจำลอง สิ่งที่ครูแจกให้ หนังสือ ฟิล์ม สไลด์ แผ่นใส
3. สื่อทางหูและตา ได้แก่ เทปวีดิโอ ทีวีวงจนปิด
โปรแกรมโสตทัศนวัสดุ สไลด์ เทป ภาพยนตร์เสียงในฟิล์ม ทีวีทั่วไป เทคโนโลยีอื่นๆ
เช่น ดิจิทัล วีดิโอ อินเตอร์เเอคทิฟเทคโนโลยี(digital video interactive technology )
4. สื่อทางสัมผัส ได้แก่ วัตถุของจริง
แบบจำลองในการทำงาน เช่น ผู้เเสดงสถานการณ์จำลอง
ข้อดีและข้อเสียของสื่อบางประเภท
ในการเลือกสื่อที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับภาระงานการเรียนรู้ที่มีความเฉพาะเจาะจง
ผู้ออกแบบจำเป็นต้องรู้ถึงความเป็นไปได้ในข้อดีและข้อเสียที่เกี่ยวข้องกับสื่อแต่ละประเภท
ตารางที่ 16 จะแสดงให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของตัวอย่างสื่อจากประเภทของสื่อสำคัญ
4 ประเภทและตารางที่17 แสดงประเภทและคุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน
การตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการและสื่อ
การตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการและสื่อ บางครั้งเกอดขึ้นพร้อมๆกัน ในบางเวลาจะเลือกวิธีการก่อนและเลือกสื่อที่จำเป็นในการใช้ทีหลัง
ดูแกน เลียด ( Dugan laird:180)
เปรียบเทียบวิธีการว่าเป็นเหมือนทางหลวง ( highway ) ที่นำไปสู่จุดหมายปลายทาง (จุดประสงค์) และสื่อ (วัสดุฝึก)
เป็นสิ่งที่เพิ่มเติม (accessories) บนทางหลวง เช่น
สัญญาณ แผนที่ ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น
วิธีการ เป็นกลยุทธ์การเรียนการสอนที่มีระดับความชี้เฉพาะมาก
เป็นวิธีการเรียนการสอนที่ตัดสินธรรมชาติของบทเรียน Joyce ad Weil (1980) เรียกสิ่งเหล่านี้ว่าแบบจำลองการสอน ( model of
teaching ) แบบจำลองเป็นวิธีการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในระดับบทเรียนมากกว่าที่จะเป็นรดับหน่วยในหลักสูตร
ตารางที่ 16 ข้อดีและข้อเสียของสื่อบางอย่าง
สื่อ
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
โสตวัสดุ
|
||
1.เทป
|
· จูงใจ
· ใช้กับกลุ่มใหญ่ได้
· ใช้ได้ทั่งที่บ้าน ที่ทำงานและในชั้นเรียน
· สามารถก็อปปี้ได้
· ง่ายในการเก็บรักษา
|
· ก่อให้เกิดความเบื่อหน่าย
· ไม่มีการให้ผลป้อนกลับในการเรียนการสอน
· ใช้เวลาในการกรอเทปกลับ
· สามารถถูกทำลาย ฉีดเสียหายได้
· หน่วยที่กรอเทปกลับอาจจะไม่ว่าง
|
2. คำแนะนำของผู้ฝึก
|
· เผชิญหน้า
· ให้ผลป้อนกลับที่ดีกว่า
|
· ไม่เห็นหน้ากัน
· ต้องการทรัพยากรเพิ่มมากขึ้น
|
3. โทรทัศน์
|
· ครอบคลุมพื้นที่กว้าง
· เป็นระบบไปรษณีย์ที่สั้นๆ
|
· สิ้นเปลือง
· เครื่องมือพัง
|
ทัศนวัสดุ
|
||
1. ภาพพลิก (Flip
Charts)
|
· ราคาถูก
· เก็บสารสนเทศได้
· เคลื่อนย้ายได้
· เปลี่ยนสารสนเทศได้ เช่น การพิมพ์
· นำเสนอบทเรียนได้
· ไม่จำกัดใช้กับคนเดียว
|
|
2. สิ่งที่ครูแจก
|
· ราคาถูก
· เป็นการอ้างอิงที่ถาวร
· ช่วยในการทบทวน จดจำ
· ช่วยนักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียน
· ให้การอ้างอิงที่ค้นคว้าได้ในห้องสมุด
· นำไปสู่พัฒนาการก้าวต่อไปของนักเรียน
· เป็นข้อเสนอแนะในการศึกษา
|
· ราคาอาจจะแพง
· กราฟฟิก (สองมิติ)
· นักเรียนอาจไม่ได้รับการบังคับให้อ่าน
· ก่อให้เกิดการเรียนรู้แบบเฉื่อยชา
· สารสนเทศล้าสมัย
|
สื่อ
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
· ทำให้นักเรียนมีส่วนร่วม
· ใช้ได้กับนักเรียน เช่น ภาษาระยะทางและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
· สามารถสรุปให้เห็นภาพทั้งหมดได้
|
||
3. กระดาษคำพื้นฐาน
กระดานขาวตายตัว
|
· ให้สารสนเทศที่ลอกได้
· เห็นได้
· ราคาถูก
· ให้สีหลากหลายได้
· ยอมให้กลุ่มมีส่วนร่วมได้
· ขั้นตอนมีเหตุมีผล
· สามารถเปลี่ยนแปลงได้
|
· จำกัดขนาดของปากกา
· ชอล์กทำให้เลอะเทอะ
· ใช้เวลามากในการเรียน
· บางคนเขียนไม่สวย
· สองมิติ
· สารสนเทศไม่สัมพันธ์กัน
· สารสนเทศขาดตอนได้โดยไม่ได้ตั้งใจ
|
4. กระดานขาวและกระดานดำที่ตัวตาย
|
· ให้ข้อมูลที่กว้างขวาง
· ยอมให้เก็บข้อมูลเชิงตรรกได้
· ยอมให้เก็บสารสนเทศที่มีเหตุผล
· ยอมให้เขียนสารสนเทศไว้ก่อนได้
· ซ่อนและโยงความสัมพันธ์ของสารสนเทศได้
· ผู้สอน/นักเรียนช่วยกันให้ความคิดสารสนเทศได้
|
· ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
|
5. กระดานที่ใช้แม่เหล็กMagnetic
or Felt Board
|
· เคลื่อนย้ายแบบจำลองได้
· สร้างสารสนเทศใหม่ได้
|
· ไม่ใช่ของจริง
· จำกัดกลุ่มมีส่วนร่วม
|
สื่อ
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
6. การผสมผสานกระดดานตายตัวต่างๆ
( Fixed Board to the above
|
· เหมือนข้อ 5
|
· ต้องการผู้สอนที่มีทักษะ
· จัดการจัดห้องเรียน
· นักเรียนสามารถมองได้เพียงด้านเดียว
|
7. การสาธิต
( Demonstration)
|
· ประหยัดเวลาในการพูด
· ง่ายในการเฝ้าดูมากกว่าการฟัง
· เห็นของจริง
· มาตรฐานการสาธิต
|
· ต้องการผู้สอนที่มีทักษะ
· นักเรียนไม่มีส่วนร่วม
· นักเรียนไม่มีส่วนร่วม
· นักเรียนอาจไม่รู้ต้องสังเกตอะไร
· นักเรียนอาจมีความเข้าใจช้าหรือไม่เข้าใจเลย
|
8. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
(Computer
Assisted Instruction)
|
· เสริมแรงบ่อยครั้ง
· ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบว่องไว
· นักเรียนประสบความสำเร็จ
· มีปฏิสัมพันธ์กับสื่ออื่นๆ
· ผิดพลาดน้อย
|
· ถ้าปราศจากการออกแบบที่ดีก็จะก่อให้เกิดความเบื่อหน่าย
· หนึ่งร้อยชั่วโมงที่ใช้ในการออกแบบผลิตงานได้เพียงชั่วโมง
· เสียค่าใช้จ่ายสูง ทักษะที่ใช้คีย์บอร์ดนักเรียนต้องพัฒนาเอง
· ไม่ได้เหมาะกับนักเรียนทุกคน
|
โสตทัศนะ
|
||
1. ฟิล์ม /
วีดิโอ
|
· สามารถแสดงพัฒนาการของวิธีการหรือการปฏิบัติ
· ผสมผสานทัศนะคำพูดและเสียงอื่นเข้าด้วยกัน
· เปลี่ยนเวลาได้
· สนุกสนาน
· จูงใจ
|
· นักเรียนไม่มีส่วนร่วม
· แพง
· โดยทั่วไปสร้างขึ้นจากจุดประสงค์ของคนอื่น
|
สื่อ
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
สิ่งที่รบรู้ด้วยการสัมผัส ( Tactile )
|
||
1. ตัวจำลองสถานการณ์
( Simulator )
|
· อนุญาตสำหรับผู้มีทักษะของความเป็นจริง
· ใช้สำหรับการสาธิต
· ประโยชน์คุ้มค่า
· แก้ไขวิธีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง
· ยอมให้มีการวิเคราะห์
· ยอมให้นักเรียนมีส่วนร่วม
· ปลอดภัย
|
· จำกัดโปรแกรม
· ต้องการคนที่มีทักษะความสามารถสูง
· ต้องการนิเทศอย่างใกล้ชิด
|
2. อินเตอร์แอดทิฟวีดิโอ/คอมพิวเตอร์
( Interactive Video /Computer)
|
· เหมือนกับ CAL
· แบบจำลองทัศนะ / การสาธิต
· จูงใจ
|
· ยากที่จะสร้างกิ่งก้านสาขา
· กรอกกลับช้า
|
3. อินเตอร์แอคทิฟดิซค
(Interactive Video disc)
|
· เหมือนกับคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAL)
· แบบจำลองทางทัศนะ / การสาธิต
· คุณภาพในการแก้ไขปัญหาสูง
· มีจำนวนมาก
|
· ราคาสูง
· ค่าบำรุงสูง
|
4. ดิจิทัล
วีดีโอ เทคโนโลยี
(Digital
Video Tehnology (DVT))
|
· การฝึกอบรม (สื่อผสม) (multimedai)
· บันทึก/เล่นป้อนกลับ/บรรณาธิการให้การเคลื่อนไหวที่เป็นจินตนาการของนักคอมพิวเตอร์
|
· ข้อถกเถียงเกี่ยวกับการออกแบบมีความซับซ้อน
· ต้องการบุคลากรที่พัฒนาทักษะในหลายสาขา
|
สื่อ
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
· ผู้พัฒนาการเรียนการสอนควบคุมส่วนประกอบของสื่อผสมที่เป็นของรายวิชาให้ทันสมัย
เก็บสะสมไว้ในคอมพิวเตอร์
· ยอมให้ผู้เรียนพัฒนาการฝึกหัดเกี่ยวกับอินเตอร์แอดทิฟ วีดิโอ
(interactive video)
· ไม่จำกัดสาขา
· เสียงในฟิล์มจำกัดโดยไฟล์ที่สะสมไว้
· วีดิโอ( V.D.O.) ที่แสดงการเคลื่อนไหวยังคงเป็นตำราในการจิตนาการ
· โสตกราฟฟิคที่สะสมไว้ในดิจิตอล (digital)
|
||
5. ดีวีที (DVT)เป็นเครื่องหมายการค้าว วีดิโอดิซ (videodisc)
|
· ใช้ไฟล์จาก Hard
diskหรือ CD-ROM
· CD-ROM มีค่าใช้จ่ายในการผลิตถูกกว่า
|
ตารางที่ 17 ประเภทและคุณสมบัติของสื่อการเรียนการสอน
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
1. สิ่งพิมพ์ต่างๆ
เช่น หนังสือตำราเรียนคู่มือ ฯลฯ
|
· เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
· สามารถอ่านได้ตามอัตราความสามารถของแต่ละบุคคล
· เหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมากสะดวกในการแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาใหม่
|
· ถ้าจะให้ได้สิ่งพิมพ์คุณภาพดีจำเป็นต้องใช้ต้นทุนในการผลิตสูง
· บางครั้งต้องพิมพ์ใหม่เพื่อปรับปรุงข้อมูลที่ล้าสมัย
· ผู้ไม่รู้หนังสือไม่สามารถอ่านเข้าใจได้
|
2. ของจริง
ของตัวอย่าง
|
· แสดงสภาพได้ตามความจริง
· เป็นลักษณะ 3 มิติ
· สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
· สามารถจับต้องและพิจารณารายละเอียดได้
· ปกติเหมาะสมสำหรับการเสนอต่อกลุ่มย่อย
|
· บางครั้งอาจจะลำบากในการจัดหา
· ของบางสิ่งอาจมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะนำมาแสดงได้
· บางครั้งของนั้นอาจมีราคาสูง
|
3. ของจำลองหุ่นจำลอง
ขนาดเท่าหรือขยายของจริงมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (เช่น
ลักษณะของอวัยวะภายในร่างกาย)
|
· อยู่ในลักษณะ 3 มิติ
· สามารถจับต้องและพิจารณารายละเอียดได้
· ชำรุดเสียหายได้ง่าย
· สามารถแสดงหน้าที่และลักษณะส่วนประกอบ
· ช่วยในการเรียนรู้และปฏิบัติทักษะชนิดต่างๆ
· หุ่นบางอย่างสามารถผลิตได้ด้วยวัสดุหรือวัสดุท้องถิ่นที่หาได้ง่าย
|
· ต้องอาศัยความชำนาญในการผลิต
· ส่วนมากราคาแพง
· ปกติเหมาะสำหรับการแสดงต่อกลุ่มย่อย
· ถ้าทำได้ไม่เหมือนของจริงทุกประการ
บางครั้งอาจทำให้เข้าใจผิดได้
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
4. วัสดุกราฟิก เช่น แผนภูมิ แผนภาพ โปรสเตอร์ ภาพถ่าย ภาพเขียน การ์ตูน
|
· ช่วยแสดงลำดับขั้นตอนของเนื้อหา
· สามารถจัดหาได้ง่ายจากสิ่งพิมพ์ต่างๆ
· ผลิตได้ง่ายและสามารถผลิตได้จำนวนมาก
· เก็บรักษาได้ง่ายด้วยวิธีผลึกภาพ
|
· เหมาะสำหรับการเรียนในกลุ่มเล็ก
· งานกราฟิกที่มีคุณภาพจำเป็นต้องใช้ช่างเทคนิคที่มีความชำนาญในการผลิต
· การใช้ภาพบางประเภท เช่น ภาพ
· การใช้ภาพบางประเภท เช่น ภาพตัดส่วน
(sectional
drawings) หรือการ์ตูนอาจไม่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมาย
เกิดความเข้าใจกันดีขึ้น เพราะไม่สามารถสัมพันธ์กลับของจริงได้
|
5. กระดานดำ
กระดานขาว
|
· ต้นทุนในการผลิตต่ำ
· สามารถเขียนรายงานกราฟิกได้หลายชนิด
· ช่วยในการสร้างความเข้าใจตามลำดับเรื่องราวเนื้อหา
|
· ผู้สอนต้องหันหลังให้กลุ่มผู้เรียนเมื่อเขียนกระดานทำให้ไม่สามารควบคุมชั้นเรียนได้
· สามารถอ่านข้อความบนกระดานได้ไม่ไกลมากนักทำให้กลุ่มผู้เรียนมีจำนวนจำกัด
· ภาพ หัวข้อ หรือประเด็นคำบรรยายต้องถูกลบ
ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก
· ผู้สอนต้องมีความสามารถในการเขียนกระดานพอสมควร
|
6. กระดานผ้าสำลีและกระดานแม่เหล็ก
|
· สามารถนำมาใช้ได้อีก
· วัสดุในการผลิตหาง่ายและสามารถผลิตได้เอง
· เหมาะสำหรับแสดงความเกี่ยวพันของลำดับเนื้อหาเป็นขั้นตอน
· ช่วยดึงดูดความสนใจ
|
· ไม่เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
· สามารถให้กลุ่มผู้เรียนร่วมใช้เพื่อสร้างความสนใจและทดสอบความเข้าใจ
|
||
7. การศึกษานอกสถานที่
|
· ผู้เรียนสามารถสังเกตการณ์และมีส่วนร่วมได้ด้วยตนเอง
· เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมทำงานเป็นกลุ่มและสร้างสรรค์ความรับผิดชอบร่วมกัน
· สามารถจูงใจเป็นรายบุคลได้ดี
|
· เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
· จัดเฉพาะผู้เรียนกลุ่มย่อย•ต้องเตรียมการและวางแผนโดยละเอียดรอบคอบ
|
สื่อการสอนประเภทใช้เครื่องฉาย
1. ประเภทเสนอภาพนิ่ง
|
||
1.1เครื่องฉายภาพทึบแสง
|
· สามารถขยายภาพถ่ายภาพเขียน
วัสดุทึบแสงให้เป็นภาพที่มองดูมีขนาดใหญ่ได้
· เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่
· ช่วยลดภาระในการผลิตสไลค์และแผ่นโปรงใส
|
· ต้องใช้เครื่องในห้องที่มืดสนิทจึงจะเห็นภาพได้ชัดเจน
· เครื่องมือขนาดใหญ่ทำให้ขนย้ายลำบาก
|
1.2 แผ่นโปร่งแสง
|
· สามารถใช้ได้ในที่ที่มีแสงสว่าง
· เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่
· ผู้สอนหันหน้าเข้าหาผู้เรียน
· ผู้สอนสามรถเตรียมแผ่นโปร่งใสไว้ใช้ล่วงหน้าหรือสามารถเขียนลงไปพร้อมทำการบรรยายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ
|
· ถ้าจะผลิตแผ่นโปร่งใสที่มีลักษณะพิเศษต้องลงทุนสูง
· ผู้เรียนไม่มีมีบทบาทร่วมในการใช้อุปกรณ์
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
1.3 สไลด์
|
· เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่และกลุ่มเล็ก
· ผลิตค่อนข้างง่ายและทำสำเนาได้ง่ายเช่นกัน
· สามารถเปลี่ยนสลับรูปในการสอนได้ตามต้องการ
· สามารถปรับเปลี่ยนรูปที่ไม่ทันสมัยหรือเพิ่มรูปตามความต้องการของเนื้อเรื่อง
· ใช้สะดวกเก็บรักษาง่าย
· ใช้ประกอบกับเครื่องบันทึกเสียงในการผสมสัญญาณเสียงและภาพ
· สามารถใช้ได้กับเครื่องฉายที่ใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่
|
· ต้องฉายในห้องที่มืดพอสมควรยกเว้นจะมีจอ Daylight Screen
· การถ่ายทำชุดสไลค์ที่ดีต้องมีการวางแผนเพิ่มรูปตามทำบท
สคริปการถ่ายทำและการจัดภาพเป็นชุด
|
4.ฟิล์มสคลิป
|
· เหมาะสำหรับการเรียนเป็นกลุ่มเล็กหรือรายบุคคลใช้ภาพกับเรื่องอื่นๆได้
· ผลิตเองได้ง่าย
· สะดวกในการใช้และเก็บรักษา
· สะดวกในการเก็บรักษา
|
· ไม่สามารถติดต่อสลับ
· ริมหนามเตยชำรุดได้ง่าย
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
5. ไมโครฟิล์มไมโครฟิช
|
· สะดวกในการเก็บรักษา
· สามารถเก็บจำแนกประเภทได้ง่าย
· เหมาะสำหรับการเก็บรักษาข้อมูลสิ่งพิมพ์เพราะมีขนาดเล็ก
· ขนาดเล็กหยิบใช้ได้สะดวก
|
· ไม่สามรถอ่านข้อความได้ด้วยตาเปล่าต้องใช้เครื่องอ่านที่มีคุณภาพดี
· เครื่องอ่านใช้อ่านคนเดียวมีราคาไม่สูงมากนัก
· เครื่องอ่านสำหรับฉายให้กลุ่มใหญ่จะราคาแพง
|
2. ประเภทเสนอภาพเคลื่อนไหว
|
||
2.1 ภาพยนตร์ (8และ 16 มม.)
|
· ให้ภาพที่ดูแล้วเสมือนมีการเคลื่อนไหวของสิ่งของและให้เสียงประกอบซึ่งทั้งภาพและเสียงมีลักษณะใกล้เคียงความจริงมาก
· เหมาะสำหรับการสอนกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย
· ภาพยนตร์ 8 มม. เหมาะสำหรับการเรียนรายบุคคล
· เหมาะสำหรับให้ความรู้แต่ผู้สอนจะต้องอธิบายบางสิ่งในภาพยนตร์ก่อนทำการฉายและเมื่อฉายจบแล้วควรมีการซักถามปัญหาหรืออภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปเรื่อง
|
· ต้นทุนในการผลิตสูงมากและกรรมวิธีในเคียงการผลิตยุ่งยาก
· หากผลิตฟิล์มจำนานน้อยม้วนจะทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงกว่าเดิมมาก
· ต้องใช้ไฟฟ้ามากในการฉาย
· ลำบากในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์
· ต้องฉายในที่มืด
· หากใช้ภาพยนตร์ต่างประเทศอาจจะไม่ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้จริงๆหรือผู้ชมอาจไม่เข้าใจเนื้อเรื่องได้เท่าที่ควร
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
2.2 โทรทัศน์
|
· สามารถใช้ได้กับผู้เรียนหรือผู้ชม
ไม่จำกัดจำนวนและสามารถถ่ายทอดไปได้ในระยะไกลๆ
· ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เรียน
· เหมาะสำหรับใช้ในการจูงใจสร้างทัศนคติและเสนอ
ปัญหาให้ผู้เรียนคิดหรือเสริมสร้างการอภิปรายร่วมกัน
· ช่วยลดภาวะของผู้สอนคือ แทนที่จะต้องบรรยายหลายครั้ง
หรือหลายแห่งในหัวของเดียวกันต่อผู้เรียนหลายกลุ่มใช้การถ่ายทอดไปยังที่ต่างๆได้ในเวลาเดียวกัน
|
· การจัดรายการที่ดีต้องใช้ต้นทุนสูงมากและต้องใช้ช่างเทคนิคในการผลิตรายการ
· ต้องใช้ไฟฟ้า
· เป็นการสื่อสารทางเดียวทำให้ผู้เรียนไม่สามารถถามข้อสงสัยได้ทันทีและผู้สอนไม่สามารถทราบการตอบสนองของผู้เรียนได้รายการที่เสนออาจไม่ตรงกันตารางสอนหรือบทเรียน
|
2.3 โทรทัศน์วงจรปิด
|
· สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่
· ใช้ถ่ายทอดเหตุการณ์หรือการสอนที่ผู้เรียน /
ผู้ชมไม่สามารถรวมกันอยู่ในบริเวณที่เรียนที่ชมพร้อมกันได้สามารถใช้ร่วมกับวีดิทัศน์ในการส่งภาพได้
|
· รับภาพได้เฉพาะในบริเวณที่กำหนดไว้เท่านั้น
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
2.4 วีดิโอ
|
· สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่
· สามารถฉายซ้ำเมื่อผู้เรียนไม่เข้าใจหรือผู้ทบทวน
· แสดงการเคลื่อนไหวของภาพประกอบเสียงที่ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงของจริงมากมีขนาดเล็กอ่อนมาก
|
· ต้นทุนอุปกรณ์และการผลิตสูงต้องใช้ช่างเทคนิคในการผลิต /
จัดรายการ
· ตัวอักษรที่ปรากฏจอโทรทัศน์ม้วนเทปเสื่อมสภาพได้ง่าย
|
สื่อการสอนประเภทเครื่องเสียง
|
||
1. วิทยุหรือรายบุคคล
|
· สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ระยะกระจายเสียงกว้างและกระถ่ายทอดได้ในระยะไกลๆ
· ลดภาระของผู้สอนหรือผู้บรรยายในการเดินทางไปสอนในที่ต่างๆ
· ดึงดูดความสนใจได้ดี
· เครื่องรับวิทยุราคาถูกและสามารถใช้กับแบตเตอรี่ได้
· สามารถใช้กับสื่ออื่นเช่นสิ่งพิมพ์เพื่อประกอบการเรียน
|
· ต้องใช้ห้องที่ทำขึ้นเฉพาะเพื่อการกระจายเสียง
· ผู้ฟังหรือผู้เรียนต้องปรับตัวเข้าหารายการเนื่องจากผู้บรรยายไม่สามารถปรับตัวเข้าหาผู้ฟังได้
· เป็นการสื่อสารทางเดียวที่ทำให้ผู้บรรยายไม่สามารถทราบปฏิกิริยาสนองกลับของผู้ฟัง
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
2. เทปบันทึกเสียง
|
· สามารถใช้ได้โดยไม่จำกัดขนาดและจำนวนผู้เรียน
· เหมาะสำหรับการเรียนรู้ด้วยตนเองหรือกับกลุ่มย่อย•การเปิด / ปิด /
เดินหน้าย้อนกลับสามารถทำได้โดยสะดวก
· อุปกรณ์ราคาถูกและสามารถใช้กับแบตเตอรี่ได้
· ใช้ได้หลายกรณีเช่นใช้ประกอบสไลค์ใช้บันทึกเสียงที่ไม่สามารถฟังได้ทั่วถึง
เช่น การเต้นของหัวใจ
|
· การบันทึกเสียงที่คุณภาพดีจำเป็นต้องใช้ห้องและอุปกรณ์ที่ดีมีคุณภาพสูง
· ต้องมีความชำนาญพอสมควรในการตัดต่อเทป
· ต้องระมัดระวังในการเก็บรักษา
|
3. แผ่นซีดี
|
· บันทึกเสียงในประเภทต่างๆในระบบดีจิทัลที่ให้ความชัดมาก
· ไม่มีการพรั้งเผลอลบเสียงที่บันทึกไว้แล้วและไม่พรั่นต่อสนามแม่เหล็ก
· เรียกค้นข้อมูลเสียงได้รวดเร็ว
· มีอายุใช้งานนานและยากแก่การบุบสลาย
· ขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพา
|
· ไม่สามารถบันทึกทับได้
· โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกเสียงเองได้ต้องมีการบันทึกเสียงมาจากโรงงานผู้ผลิต
· ต้นทุนการผลิตสูงกว่าการบันทึกลงเทปเสียงแต่ถ้าผลิตเป็นจำนานมากจะลดต้นทุนได้มาก
· เครื่องเล่นมีราคาสูงกว่าเครื่องเล่นเทปเสียง
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
4. สื่อเชิงโต้ตอบ
(Interactive Media)
4.1 ด้านวัสดุอุปกรณ์
|
||
4.1. คอมพิวเตอร์
|
· ใช้งานได้หลายประเภทเช่นการคำนวณจัดเก็บฐานข้อมูลการจัดหน้าสิ่งพิมพ์
ฯลฯ
· ใช้แก้ปัญหาต่างๆที่ซับซ้อนได้
· เสนอข้อมูลได้หลายประเภททั้งตัวอักษรภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวและเสียง
· มีการโต้ตอบกับผู้เรียนเพื่อให้ผลป้อนกลับด้วยความรวดเร็ว
· สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในหน่วยความจำของเครื่องหรือในวัสดุบันทึกอื่นเช่นจานบันทึกและเทปแม่เหล็กได้
· ใช้ร่วมกับโมเด็มเพื่อใช้ในอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารข้อมูลกับฐานข้อมูลอื่นๆได้ทั่วโลก
· เครื่องกระเป๋าหิ้วขนาดเล็กเหมาะแก่การพกพาไปใช้ในที่ต่างๆได้ผู้เรียนสามารถมีการโต้ตอบกับบทเรียนได้สามารถป้อนกลับแก่ผู้เรียนได้ในทันที
เช่นการสอน
|
· มีราคาสูงพอสมควรต้องมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลา
· ต้องใช้กับโปรแกรมซอฟต์แวร์ประเภทต่างๆจึงจะใช้งานได้
· มีการเปลี่ยนแปลงด้านอุปกรณ์เช่นความเร็วในการทำงานของการ์ดประเภทต่างๆจนทำให้เครื่องที่มีอยู่ล้าสมัยได้เร็ว
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
4.1.2 บทเรียนการสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
(CAT)
|
· ผู้เรียนสามารถมีการโต้ตอบกับบทเรียนได
· สามารถป้อนกลับแก่ผู้เรียนได้ในทันที
· มีรูปแบบบทเรียนให้เลือกใช้มากมายเช่นการสอน ทบทวน เกม การจำลอง ฯลฯ
· เสนอบทเรียนได้ทั้งลักษณะตัวอักษรภาพและเสียง
· ผู้เรียนสามารถทบทวนเนื้อหาบทเรียนและทำกิจกรรมได้ตามความสามารถของตนในลักษณะการศึกษารายบุคคล
|
· ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการเรียนโปรแกรมบทเรียน
· โปรแกรมซอฟต์แวร์บางประเภทมีราคาสูงพอสมควร
|
4.1.3 ซีดี – รอม
|
· สามารถบันทึกข้อมูลได้มากถึง 680 เมกะไบต์
· บันทึกข้อมูลได้ทั้งตัวอักษรภาพนิ่งภาพกราฟิกเคลื่อนไหวภาพ
วีดิทัศน์และเสียง
· เรียกค้นข้อมูลได้รวดเร็วและถูกต้อง
· มีอายุใช้งานนานและยากแก่การบุบสลาย
· ขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะแก่การพกพาบันทึกข้อมูลในลักษณะตัวอักษรภาพนิ่งภาพ
|
· ไม่สามารถบันทึกทับข้อมูลเดิมได้
· ปกติแล้วผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกข้อมูลเองได้ต้องมีการบันทึกมาจากโรงงานผู้ผลิต
· ต้นทุนการผลิตสูงแต่ถ้าผลิตเป็นจำนวนมากจะลดต้นทุนได้มาก
· ต้องใช้เล่นร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
4.1.4 แผ่นวีดิทัศน์
(Videodisc/Lascrdisc)
|
· บันทึกข้อมูลในลักษณะตัวอักษรภาพนึ่งภาพกราฟิกเคลื่อนไหว
· แบ่งเป็นสองชนิดบันทึกข้อมูลได้ทั้งแบบหน้าละ 30 นาทีและ 1ชั่วโมง
· ดูภาพนิ่งได้ที่ละภาพด้วยความคมชัดหรือจะดูภาพช้าหรือภาพเร็วก็ได้เช่นกัน
· เล่นเดินหน้าหรือย้อนกลับได้ด้วยความรวดเร็ว
· ค้นหาเนื้อเรื่องเป็นตอนหรือตามเวลาของการเล่นได้
|
· มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้วจึงมีขนาดใหญ่ไม่เหมาะในการพกพา
· ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้เองต้องบันทึกมาจากโรงงานเท่านั้น
|
4.2 ด้านเทคนิควิธีการ
|
||
4.2.1 สื่อหลายมิติ
(Hypernedia)
|
· เสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรงทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลในที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
|
· ต้องใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพสูงในการผลิตบทเรียน
· ต้องอาศัยเชี่ยวชาญในการสร้างบทเรียน
· ต้องใช้รวมกับคอมพิวเตอร์ที่คุณภาพสูงพอควรจึงจะใช้ได้ดี
|
· เนื้อหาบทเรียนที่มีทั้งภาพนิ่งภาพกราฟิกเคลื่อนไหวภาพวีดิทัศน์เสียงพูดเสียงดนตรี
· ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับบทเรียนและได้รับผลป้อนกลับทันที
สะดวกในการใช้
|
· การผลิตบทเรียนลักษณะนี้ต้องอาศัยอุปกรณ์ร่วมหลายอย่างเช่นเครื่องเสียงกล้องวีดิทัศน์เครื่องเล่นแผ่นวีดิทัศน์
ฯล
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
4. 2. 2 แผ่นวีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ
(Interactive Video, Interactive Videodisc)
|
· ใช้ได้กับผู้เรียนกลุ่มใหญ่กลุ่มย่อยและการศึกษารายบุคคล
· เสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรง (Non-linear)
· การเสนอเนื้อหามีทั้งภาพนิ่งภาพวีดิทัศน์และเสียง
· ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับบทเรียนและได้รับผลป้อนกลับทันที
· บันทึกผลการเรียนและการตอบสนองของผู้เรียนได้
|
· ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมในการทำงานหลายอย่าง
· ต้องเลือกเนื้อหาในแผ่นวีดิทัศน์มาประกอบบทเรียนให้เหมาะสมซึ่งบางครั้งอาจหาได้ไม่ตรงนัก
· อุปกรณ์ต่างๆมีราคาสูงจึงทำให้การเรียนแบบนี้ไม่เป็นที่นิยมใช้กันมากนัก
|
4.2.3 อินเทอร์เน็ต
|
· ค้นคว้าข้อมูลได้ทุกมุมโลกอย่างรวดเร็ว
· ติดตามข่าวสารความรู้และความเคลื่อนไหวต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
· สนทนากับผู้ที่ห่างไกลได้ทั้งลักษณะข้อความและเสียงอร่วมกลุ่มอภิปรายกับผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกันเพื่อขยายวิสัยทัศน์
· รับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบข้อความภาพและเสียงได้อย่างรวดเร็วในราคาถูก
|
· ข้อมูลที่ได้อาจไม่ถูกต้องเนื่องจากไม่มีผู้ใดรับรอง
· ต้องมีการศึกษาการใช้งานเพื่อการสืบค้นข้อมูล
· นักเรียนและเยาวชนอาจเข้าไปดูในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
· ถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลในที่ต่างๆได้ติดประกาศข้อความเพื่อหาผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
|
||
4.2.4 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
|
· ช่วยจัดปัญหาในเรื่องของเวลาและระยะทางในการเรียน
· ผู้เรียนที่ไม่กล้าแสดงออกในชั้นเรียนจะได้รู้สึกอิสระในการแสดงความคิดเห็น
· เสริมบรรยากาศในการเรียนรู้เพื่อเปิดโอกาสให้การถามข้อข้องใจเป็นการส่วนตัว
ผู้เรียนสามารถติดต่อกันในการแบ่งปันข้อมูลและปรึกษาร่วมกันได้การพิมพ์และเรียบเรียงเนื้อหาจึงจะทำให้การอภิปรายราบรื่น
|
· เป็นการสื่อสารที่ผู้สื่อสารไม่สามารถแสดงความรู้สึกต่อกันได้ทำให้ขาดความเป็นธรรมชาติ
· อาจเกิดความสับสนในการอภิปรายเนื่องจากอภิปรายในเวลาที่ไม่ต่อเนื่องกัน
|
4.2.5 การสอนในเว็บเป็นฐานการสอนบทเว็บ
|
· ขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้เรียน
รอบโลกทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
· การเรียนด้วยการสื่อสารหลายรูปแบบทำให้ผู้เรียนรู้จักการสื่อสารทางสังคมทำให้การเรียนมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
|
· ผู้สอนและผู้เรียนอาจไม่พบหน้ากันเลยอาจทำให้ผู้เรียนบางคนอึดอัดและไม่สะดวกในการเรียน
· ผู้สอนต้องใช้เวลาเตรียมการสอนมาก
· การตอบปัญหาในบางครั้งอาจไม่เกิดขึ้นในทันที
ทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจอย่างท่องแท้ได้
|
วัสดุอุปกรณ์
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
· การเรียนด้วยสื่อหลายมิติทำให้เลือกเรียนเนื้อหาได้ตามสะดวกโดยไม่ต้องเรียงลำดับกัน
· มีหลักสูตรให้เลือกเรียนมาก
· มีการเรียนทั้งแบบประสานเวลาและแบบไม่ประสานเวลาของตนเองจึงจะประสบความสำเร็จในการเรียน
|
· ผู้เรียนต้องรู้จักควบคุมการเรียนของตนเองจึงจะประสบความสำเร็จในการเรียนได้
|
การตัดสินใจเกี่ยวกับสื่อ
สื่อเป็นวิธีการซึ่งมีการนำเสนอสารสนเทศและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในขณะที่สื่อเป็นคำที่ใช้อ้างถึงแบบของการเรียนการสอน
(mode of delivery) จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องมีวัสดุอุปกรณ์ที่จะส่งผ่านแบบการเรียนการสอนนั้นในทางตรรกะแล้วเป็นความจำเป็นทั้งส่วนที่เป็นอุปกรณ์
(hardware) และส่วนที่เป็นวัดสุ (software) สำหรับการเรียนรู้ที่อาศัยคอมพิวเตอร์เป็นฐานเช่นเดียวกันกับสื่อโทรทัศน์ต้องอาศัยโปรแกรมเป็นฐาน
การตัดสินใจเกี่ยวกับสื่อสามารถทำได้ก่อน ทำตามหลังหรือทำไปพร้อมๆ
กับการตกลงใจเกี่ยวกับวิธีการโดยทั่ว ๆไปแล้ว จะทำตามหลังหรือทำไปพร้อมๆกันการบรรยายอาจจะต้องการองค์ประกอบของสื่อหรืออาจจะอยู่ในรูปแบบของโปรแกรมโทรทัศน์
ในสมัยก่อนวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเป็นสื่อประเภทสิ่งพิมพ์
ในตอนนี้จะได้กล่าวถึงการแบ่งวิธีการสื่อออกเป็นสามประเภทคือวิธีการ(methods) สื่อดั้งเดิม (traditional
media) และเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า (newer
technology) ในด้านวิธีการดำเนินหลักสูตรโดยทั่วไปซึ่งอาจจะรวมๆกันแต่จะใช้สื่อรวมๆกันส่วนสื่อเดิมๆจะรวมถึงงานพิมพ์
(print) และสื่อโสตทัศน์ (audiovisual
media) และสำหรับเทคโนโลยีใหม่หรือ สื่อดิจิทัล
คือการสื่อสารโทรคมนาคมและไมโครโพรเซสเซอร์ (microprocessor) สื่อ (media) สามารถจัดกลุ่มเป็นวัสดุสิ่งพิมพ์
(print materials) ทัศนวัสดุไม่ฉาย (nonprojected
visuals) ทัศนวัสดุฉาย (projected visuals) สื่อประเภทเสียง (audio media) ระบบสื่อผสม multimedia
systems) ภาพยนตร์ (films) และโทรทัศน์
(television) สื่อแต่ละประเภทเหล่านี้สามารถแตกออกให้เลือกได้ในหลายรูปแบบดังแสดงในตารางที่ 18 และตารางที่ 19
การตัดสินใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่สื่อดิจิทัล
เทคโนโลยีใหม่/สื่อดิจิทัล ประกอบด้วย
การเรียนการสอนที่อาศัยคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐาน (computer based
instruction) และการเรียนรู้ทางไกล
ที่อาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นพื้นฐาน (telecommunications-based
distance learning technologies) การเรียนรู้ทางไกลเกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนอยู่ในสถานที่หนึ่งเทคโนโลยีใหม่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบดังแสดงที่ตาราง
18 นิยามศัพท์เฉพาะสื่อและเทคโนโลยี
การพิจารณาเลือกสื่อ
มีหลักการทั่วไปจำนวนมากและข้อพิจารณาอื่นๆในการเลือกซื้อที่เหมาะสมสำหรับการเรียนการ
คือ กฎในการเลือกสื่อและปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อการเลือกสื่อ
ทัศนวัสดุฉาย (Projected
Visuals : Stacie)
|
ทัศนวัสดุไม่ฉาย (Non Projected Visuals)
|
|
Opaque
Projection
|
Pictures
|
|
Overhead
Projection
|
Photographs
|
|
Slides
|
charts graphs
diagrams
|
|
Filmstrips
|
displays-exhibits,
feltboards, bulletin boards
|
|
สื่อ(Media) (Multimedia Presentation)
|
การนำเสนอด้านสื่อผสม
|
|
Records
|
sound slide
|
|
tape-reel
cassette cartridge
|
multi-image
|
|
audio cards
|
film- cassette
multimedia kit
|
|
สิ่งพิมพ์(Print)
(Projected Visuals : Stacie)
|
ทัศนะวัสดุฉาย : ไม่เคลื่อนไหว
|
|
Text book
|
Film
|
Television
|
Programmed
text
|
8 mm
|
8 mm
|
Super 8
mm 1/2
inch
|
||
16 mm 3/4 inch
|
||
35 mm 1
inch
|
||
เกมส์(Games)
|
ของจริง (Realia)
|
|
board games
|
Models
|
|
simulation games
|
Manipulative
|
|
Puzzles
|
Specimens
|
กฎในการเลือกสื่อ
การเลือกสื่อมีกฎอยู่ 6 ข้อ
หรือเรียกว่าหลักการทั่วไปในการพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจอย่างไม่เป็นทางการในการเลือกสื่อ
กฎที่ 1 การเรียนการสอนโดยทั่วไปแล้วต้องการสื่อสองทาง (two way medium) นักเรียนจะเรียนได้ดีที่สุดเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุสื่อการเรียนการสอนครูสมุดทำงานหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
กฎที่ 2 สื่อทางเดียว (one-way media) ควรจะได้รับการสนับสนุนโดยสื่อที่ให้ข้อมูลป้อนกลับตัวอย่างคือ
ภาพยนตร์หรือวีดิทัศน์ จะให้ประสิทธิผลมากกว่าเมื่อมีคู่มือการใช้ควบคู่ไปด้วยหรือมีแบบฝึกปฏิบัติควบคู่ไปด้วยหรือมีครูซึ่งสามารถที่จะถามคำถามและตอบคำถามได้
กฎที่ 3
การเรียนรู้ของแต่ละบุคคลต้องการสื่อที่มีความยืดหยุ่นตัวอย่างคือผู้ที่เรียนเช้าอาจจะต้องการสื่อการเรียนที่แตกแขนงออกไปเป็นพิเศษเช่นการฝึกเสริม
(remedial exercises) ตัวอย่างเสริมเป็นพิเศษสื่อภาพยนตร์ควรจะส่งเสริมโดยการเยียวยาแก้ไขหรือมีกิจกรรมที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสามารถที่จะสนองตอบได้อย่างดีเลิศในความยืดหยุ่นที่มีต่อปัจจัย
กฎที่ 4 การนำเสนอโลกแห่งความเป็นจริง ต้องการสื่อทางทัศนวัสดุตั
วอย่างนักเรียนพยาบาลเรียนรู้วิธีการตัดไหมจำเป็นต้องเห็นการสาธิต
(ภาพยนตร์วีดิทัศน์การสาธิตของจริง)
มากกว่าที่จะเขียนออกมาเป็นรายการของวิธีการตัดไหม
กฎที่ 5 พฤติกรรมที่คาดหวังหลังจากการเรียนการสอนควรจะให้มีการฝึกปฏิบัติในระหว่างที่มีการเรียนการสอนการได้ยินหรือการได้เห็นทักษะที่แสดงออกมาไม่เป็นการเพียงพอตัวอย่างผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องทำการตัดไหมตามที่เห็นในวีดิทัศน์ไม่ว่าจะเป็นการตัดไหมเทียมๆหรือตัดไหมจริงๆ
กฎที่ 6 เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ของบทเรียนอื่นๆอาจต้องการการเลือกสื่อที่มีความแตกต่างกันตัวอย่าง
ทฤษฎีที่อยู่บนหลักการของวิธีการทำหมันอาจจะต้องการวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นสิ่งพิมพ์
ในขณะที่วิธีการตัดไหม อาจจะต้องการสาธิตที่มีความเป็นจริงมากกว่า
(วีดิทัศน์ภาพยนตร์ ฯลฯ )
ปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อการเลือกสื่อ
ได้มีการเรียนรู้กฎซึ่งจำเป็นในการพิจารณาเมื่อมีการเลือกสื่อการเรียนการสอนเป็นความจำที่มองหาปัจจัยอื่นๆซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกสื่อ
ตารางที่ 19 เทคโนโลยีใหม่
Telecommunication-based
Teleconferencing
Telelectares
Microprocessor: based
Computer-assisted
instruction
Computer Games
Expert Tutoring
Systems
Hypermedia
Interactive Video
Computer-managed
Instruction
Compact Dis
ตารางที่ 20 ข้อควรพิจารณาในการเลือกสื่อ
ปัจจัย
|
ตัวอย่าง
|
1. สิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้
|
บ้าน ที่ทำงาน ชั้นเรียน ม้านั่ง
|
2. ประสิทธิผลในการลงทุน
|
ราคาต่อห้อง และราคาในการดำเนินงาน
|
3.
แหล่งวัสดุอุปกรณ์ที่มีประโยชน์เพียงพอการพัฒนาภาพยนตร์สตูดิโอการพิมพ์
|
วัสดุอุปกรณ์ที่มีความเหมาะสม
มีระเบียบเรียบร้อย
|
4.
ความสะดวกในการใช้ตำแหน่งที่ตั้งเวลาที่มีสำหรับการเตรียมตัว
|
เช่นใช้มากน้อยเท่าไรบ่อยเท่าไรขนาดของกลุ่ม
|
5. สิ่งที่ไม่จำเป็น (Non-essentials)
|
สีมีความจำเป็นหรือไม่ตำราเพียงพอหรือสไลค์ที่จะใช้ในการนำเสนอเพียงพอหรือไม่
|
6.
ทรัพยากรมนุษย์หาได้ง่ายหรือไม่
|
ผู้ชำนาญการพิเศษด้านวิธีการผลิตสื่อหาได้ง่ายหรือไม่
|
7. นโยบาย
|
นโยบายเจตคติต่อต้านการเปลี่ยนแปลงข้อขัดแย้ง
|
แบบจำลองการเลือกสื่อ
แบบจำลองการเลือกสื่อการเรียนการสอนมีหลายแบบ
สำหรับการพิจารณาแต่ละแบบจะมีวิธีการเลือกสื่อที่ต่างกัน สิ่งที่น่าสังเกตคือ
แต่ละแบบมีความต่างกันอย่างไร และพิจารณาว่ามีอะไรเป็นนัยของความต่าง
แต่ละแบบจำลองพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการเลือกและการใช้ประโยชน์จากวัสดุ ให้สังเกตภาพที่ 7 ซึ่งไม่ได้นำมาเสนอวิธีการเลือกสื่อที่ตายตัวและภาพที่ 8 ซึ่งใช้สำหรับโครงการการพัฒนาการเรียนสอนของกองทัพอากาศ
แบบจำลองของวิลเลียม ออลเลน
ในแบบจำลองของวิลเลี่ยม ออลเลน (William allen) ผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการจำแนกจุดประสงค์และการจำแนกความสามารถสูงสุดของสื่อการเรียนสอนที่จะพลิกแพลงให้เข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์
ออลเลน ได้ตรวจสอบประสิทธิผล สื่อสำหรับวัดชนิดของการเรียนรู้ ด้วยเหตุผลนี้
ออลเลนได้สร้างตารางแจกแจงสองทางซึ่งจำแนกสื่อที่ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง
ปานกลาง และต่ำตามชนิดของการเรียนรู้
เมื่อใช้แบบจำลองนี้ผู้ออกแบบควรพยายามหลีกเลี่ยงสื่อที่ให้ผลสัมฤทธิ์ต่ำกับชนิดของการเรียนรู้
(aien, 1967: 27-31) อย่างไรก็ตาม
ถ้าผู้ออกแบบเลือกสื่อที่ให้ผลสัมฤทธิ์ต่ำหรือปานกลางผู้ใช้ควรรับรู้ข้อจำกัด
แบบจำลองของเยอร์ลาชและอีลี
แบบจำลองเยอร์ลาชและอีลี (Gerlach and Ely) ได้เป็นที่รู้จักกันในปีค.
ศ. 1971 ในตำราที่ชื่อว่าการสอนและสื่อ
เยอร์ลาชและอีลีได้นำเสนอเกณฑ์ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในการเลือกสื่อการเรียนการสอนหลังจากที่ระบุจุดประสงค์และระบุพฤติกรรมความพร้อมที่จะรับการสอน
(entering behaviors) แล้วเกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วยประการที่ 1 ความเหมาะสมทางปัญญา
(สื่อสามารถส่งผ่านตัวกระตุ้นตามเจตนารมณ์ของจุดประสงค์หรือไม่) ประการที่ 2 ระดับของความเข้าใจ (สื่อทำให้ผู้เรียนเข้าใจหรือไม่) ประการที่ 3 ราคา ประการที่ 4 ประโยชน์
(เครื่องมืออุปกรณ์และวัสดุมีประโยชน์หรือไม่) และ ประการที่ 5 คุณภาพทางเทคนิค
(คุณลักษณะทางการฟังและการดูของการผลิตมีคุณภาพเพียงพอหรือไม่) (Gerlach
and Ely, 1980) ภาพที่ 5 จะแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของจุดประสงค์กับทางเลือกในการเลือกสื่อตำราของเยอร์ลาชและอีลีได้มีการพิมพ์ครั้งที่สองในปีค.
ศ.1980 โดยที่ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นสำหรับครูทุกระดับดังภาพประกอบที่ 5
ภาพประกอบที่ 5 แบบจำลองการเรียนการสอน : การเลือกสื่อ
ที่มา: Frederick G.
Knirk, and Kent L. Gustafson, Instructional Technology A Systematic Approach to
Education (New York: Holt, Rinchart and Winston, 1986),
p.170.
การขยายขอบเขตการเรียนรู้ด้วยการวิจัยการเรียนรู้
ผู้สอนสามารถปรับปรุงความสามารถในด้านวิชาการของผู้เรียนด้วยการวิจัยการ
วิจัยการเรียนรู้จะช่วยให้ได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าเงื่อนไขอะไรที่ทำให้มีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับที่ตนเผชิญอยู่
นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรมใช้วิธีการในการศึกษาพฤติกรรมด้วยการสังเกตบุคคลในสถานที่กรณีที่หลากหลาย
ด้วยการตั้งคำถามลึกๆเกี่ยวกับประสบการณ์มีการสำรวจประชากรกลุ่มใหญ่เพื่อที่จะตัดสินใจว่าประชาชนเหล่านั้นชอบหรือไม่ชอบ
นักออกแบบสร้างและใช้แบบทดสอบสำหรับความสามารถและคุณลักษณะของคนจำนวนมากแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นการให้ผลต่อการศึกษาการเรียนรู้
คือ การทดลองซึ่งนักวิจัยระมัดระวังและควบคุมการศึกษาสาเหตุและผลที่ได้รับ
แบบมโนทัศน์ของการวิจัยเกี่ยวกับการออกแบบการเรียนการสอนเนื้อหาส่วนใหญ่ของงานวิจัยที่เกี่ยวกับตัวแปรการออกแบบการเรียนการสอนต้องไม่กว้างเกินไปโดยปราศจากของการจัดการ
ริชชี ได้จัดกลุ่มงานวิจัยเกี่ยวกับตัวแปรการเรียนการสอนเป็นสี่กลุ่มใหญ่ คือ
ผู้เรียน เนื้อหาวิชา สิ่งแวดล้อม และระบบการสอน
การออกแบบการเรียนการสอนขึ้นอยู่กับธรรมชาติของความชี้เฉพาะในแต่ละกลุ่มอย่างหลากหลาย
ตารางที่ 21 ตัวอย่างของการปฏิบัติเชิงการเปลี่ยนแปลง
|
การปฏิบัติเชิงความจำ (recognition practice)
คาร์บูเรเตอร์ตัวไหนทำงานถูกต้องเมฆที่เห็นเป็นชนิดที่เรียกว่านิมบัส
(nimbus) หรือคูมูสัส (cumulus)
การแก้ไขการปฏิบัติ (editing practice)
คาร์บูเรเตอร์นี้ทำงานไม่ถูกต้องทำให้ถูกต้อง
เมฆที่เห็นไม่ใช่นิมบัส เป็นเมฆชนิดใด
การปฏิบัติที่ให้ผล (Production practice)
ในการติดตั้งคาร์บูเรเตอร์อย่าลืมต้องติดตั้งโช้ค
(choke) ก่อน
จงดูรูปร่างและสีของเมฆแล้วบอกว่าเป็นเมฆชนิดใด
|
ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) อีกวิธีการหนึ่งที่จะทำให้การผิดพลาดลดลง คือ
การให้ผู้เรียนได้รับรู้ที่การตอบสนองนั้นไม่ถูกต้อง
การรู้ว่าถูกหรือผิดจะช่วยให้ผู้เรียนแก้ไขการกระทำให้ถูกต้องระหว่างทดลองและเน้นไปที่ส่วนของภาระงานที่ต้องการกลั่นกรอง
การเรียนรู้จากสื่อเคลื่อนที่
เทคโนโลยีแบบเคลื่อนที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบพลวัตรที่สร้างสรรค์การเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์กันภายได้สิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนในยุคที่ความเจริญก้าวหน้าของสื่อสารไร้สายนี้
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทโน็ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ (รวมถึง TABLETS) กล้องถ่ายภาพดิจิทัล
เครื่องเล่นMP3 หรือ MP4
และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อื่น ๆ อีกมากมายในที่นี้ขอเรียกว่าสื่อเคลื่อนที่ (Mobile
devices) สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้การตอบสนองได้รวดเร็วมีปฏิสัมพันธ์แบบโต้ตอบให้ประสบการณ์ที่ดี
เช่น ในการสอนวิชาภาษาต่างประเทศ
สามารงแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ผ่านสื่อเคลื่อนที่ดังกล่าวนี้
ทั้งนี้ผู้เรียนยังใช้ประโยชน์ในการส่งอีเมลหรือใช้ประโยชน์เพื่อการนันทนาการได้อีกด้วย
ในบางกรณีผู้เรียนยังมีความคาดหวังที่จะได้เรียนรู้แม้ว่าจะไม่ได้เข้าชั้นเรียนโดยที่ผู้เรียนสามารถติดตามบทเรียนตามที่ต้องการได้สะดวกจากเว็บไซต์
การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะเปลี่ยนการเรียนการสอนแบบเดิมที่ครูเป็นศูนย์กลางมาเป็นการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐาน
การเรียนรู้ คือ กระบวนการทางสังคมผู้เรียนจะต้องการเรียนรู้เพื่อให้ได้ความรู้หรือคำตอบ
การให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และหาคำตอบจากสื่อสังคมออนไลน์ การเรียนรู้ออนไลน์
การสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ใหม่โดยใช้ความสามารถของอินเทอร์เน็ต เว็บ
สื่อสังคมออนไลน์เพื่อรองรับรูปแบบการเรียนการสอนที่เปลี่ยนไป
สภาพแวดล้อมที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้นสารสนเทศ คือ
ส่วนสำคัญของการเรียนรู้ สื่อดิจิทัล
ทำให้เกิดโอกาสในการช่วยให้ผู้เรียนรู้เข้าถึงและมีปฏิสัมพันธ์กับแหล่งสารสนเทศและกลุ่มผู้เรียนรู้ด้วยกัน
ผู้สอนจะต้องเรียนรู้และพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน คือ e-learning and m-learming กล่าวคือ จัดให้/ส่งเสริมการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์และการเรียนรู้แบบ
เคลื่อนที่ (Mobile learning)อำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้สอนและผู้เรียนเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่กำลังทำให้สิ่งของทุกสรรพสิ่งบนโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้
นั้นคือ Internet of Everything (leE) ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆโดยจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจซึ่งมีการคาดว่า IoE จะทำให้เกิดโอกาสมากมายด้วยมูลค่าที่สูงถึงระดับล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐและคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการนำ IoE มาใช้ในการปฏิวัติการศึกษาเพื่อสร้างรูปแบบของการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่
จะยิ่งทำให้เกิดการต่อยอดการเรียนรู้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น